อินทรีอันดามัน'' กระบี่ เอฟซี
ฤดูกาลที่ผ่านมาถือว่าเป็นทีมน้องใหม่ที่สร้างสีสันไม่น้อย
เพราะมีผลงานที่ยอดเยี่ยมจบเลกแรกขยับขึ้นไปเกาะถึงท็อปทรีเลยทีเดียว
ทั้งนี้เพราะฟอร์มการเล่นที่ดุดัน นักเตะวิ่งสู้ฟัดได้ตลอดเกม รวมถึงเอนเทอร์เทนแฟนบอลที่ซื้อบัตรเข้ามาชมการแข่งขัน ซึ่งก็ทำให้นักเตะหลายรายเริ่มถูกจับตามองและเอ่ยถึงหลายรายจากฟอร์มที่โดด เด่น
หนึ่งในนั้น ''เจ้าสุข'' สุขพร วงศ์เชียงคำ กองหน้าทีมชาติลาวหนึ่งเดียวของทีมกระบี่ เอฟซี ที่ถือว่าฟอร์มและผลงานมีความสม่ำเสมอจนกลายเป็นที่รักและชื่นชอบของแฟนบอล เท่านั้นไม่พอฟอร์มการเล่นของเขายังมีความโดดเด่นกับการกลับไปรับใช้ทีมชาติ ลาวในศึกเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2012 ที่ผ่านมาด้วย
''ผมมาร่วมเล่นกับทีมกระบี่ เอฟซีได้หนึ่งฤดูกาลแล้วรู้สึกพอใจกับฟอร์มตัวเองอย่างมาก เพราะผมว่าตัวเองพัฒนาขึ้นไม่น้อยจากเดิมที่เคยเล่นที่ประเทสลาว เนื่องจากมาเล่นที่เมืองไทยได้เล่นกับนักเตะฝีเท้าดีทั้งนักเตะไทยและแข้ง ต่างชาติ ซึ่งแตกต่างกับที่ประเทศลาวซึ่งต่างชาติไม่เก่ง นักเตะในลีกก็ยังไม่ค่อยแข็งแกร่งเท่าไหร่''
''ขณะเดียวกันในเรื่องของความเป็นส่วนตัวนอกสนามผมก็ไม่มี ปัญหา เพราะวัฒนธรรมของไทยและลาวคล้ายกัน ทำให้ผมปรับตัวได้เร็ว ตอนนี้ผมใช้ชีวิตที่กระบี่อย่างสบายมาก เพื่อนๆ ร่วมทีมและแฟนบอลรู้จักผม ให้การต้อนรับเป็นอย่างดี ไปไหนก็มีแต่คนรู้จัก ก็เป็นปลื้มครับ ที่สำคัญผมว่าตอนนี้มันต่างกับตอนที่ผมมาใหม่ๆ มาก โดยเฉพาะเรื่องของการยอมรับในฝีเท้า เนื่องจากตอนแรกดูเหมือนว่าทุกคนยังไม่ค่อยมั่นใจผมเท่าไหร่ แต่หลังจากที่ผมเล่นมาหนึ่งซีซั่นและติดทีมชาติลาว ทุกคนยอมรับผมมากขึ้น แต่ผมยังมีดีมาโชว์อีกในซีซั่นใหม่นะ'' สุขพร กล่าว
สำหรับแข้งจากบ้านพี่เมืองน้องที่ล่องใต้มาไกลบ้านเกิดด้วย ความมุ่งมานะ สุดท้ายเขาก็ประสบความสำเร็จกับความฝันที่อยากจะเล่นฟุตบอลลีกไทย และทำได้ดีด้วย แม้ว่าจะยังไม่ใช่ลีกสูงสุดก็ตาม ถือว่าเป็นแบบอย่างให้กับนักเตะไทยอีกหลายคนที่ยังหลงทางและขาดความมุ่งมั่น ที่จะเอาแบบอย่าง พิสูจน์ให้เห็นว่าตนเองมีดีอะไร
''ผมว่าการที่ผมมาเล่นที่เมืองไทย ผมได้อะไรไปเยอะมากได้เพื่อนใหม่ ได้ประสบการณ์ใหม่ ที่สำคัญคือฝีเท้าที่พัฒนาขึ้น เพื่อนำกลับไปใช้ช่วยทีมชาติ เมื่อเกิดเจอกับนักเตะไทย เรามักจะมองว่าตัวเองอ่อนกว่า แต่พอผมมาได้สัมผัสและเล่นที่ลีกไทย ทำให้ผมมั่นใจมากขึ้นและคิดว่าเราก็เล่นได้ และไม่ได้ด้อยกว่าอย่างที่เข้าใจ ยิ่งหากเรามีความตั้งใจ และความมุ่งมั่นเราก็เล่นได้เก่งไม่แพ้กัน ซึ่งผมหวังว่าจากประสบการณ์ที่ผมได้รับจะช่วยให้ทีมชาติลาวแกร่งขึ้นด้วย''
ขณะเดียวกันทาง สุขพร วงศ์เชียงคำ กองหน้าของทีมชาติลาว ยังได้มองอนาคตของตัวเองวันข้างหน้าว่า ยังเหลือสัญญากับทีมกระบี่ เอฟซี อีกหนึ่งปี แต่ก็ยังไม่มีการพูดคุยอะไร ซึ่งก็หวังว่าซีซั่นนี้จะงัดฟอร์มที่ดีกว่าเดิมออกมาให้ได้ เพื่อโอกาสการต่อสัญญาใหม่ หรือไม่ก็ยังต้องการเล่นในลีกเมืองไทยต่อไป เพราะนี่คือประสบการณ์ที่ดี ส่วนซีซั่นนี้แข้งทีมชาวลาว มองว่าต้นสังกัดของตนเองน่าจะดีกว่าเดิมได้เพียงแต่ต้องมีตัวเก๋าบ้าง
''ซีซั่นใหม่ที่กำลังจะมาถึง ผมว่ากระบี่ เอฟซี น่าจะดีกว่าเดิม เพราะมีนักเตะใหม่ทั้งไทยและต่างๆ ชาติ ซึ่งเท่าที่เห็นแต่ละรายทักษะฝีเท้าดี น่าจะทำให้จุดเด่นคือเกมในบ้านของเราแพ้ยากเหมือนเดิม ส่วนเกมนอกบ้านที่เคยไม่ชนะก็คงจะดีขึ้น เนื่องจากทีมของเรามีแข้งพลังหนุ่มที่มีความกระหายความสำเร็จ แต่ผมหวั่นเรื่องเดียวคือเรายังขาดความเก๋าเท่านั้นเอง แต่เชื่อว่าเราน่าจะดีกว่าเดิม''
สุขพร วงศ์เชียงคำ หนึ่งแข้งเพื่อนบ้านที่เข้ามาค้าแข้งในลีกเมืองไทย ที่ถือว่าประสบความสำเร็จไม่น้อย จากความมุ่งมั่น ที่บรรดาแข้งไทยควร
http://www.siamsport.co.th/Column/130130_111.html
ทั้งนี้เพราะฟอร์มการเล่นที่ดุดัน นักเตะวิ่งสู้ฟัดได้ตลอดเกม รวมถึงเอนเทอร์เทนแฟนบอลที่ซื้อบัตรเข้ามาชมการแข่งขัน ซึ่งก็ทำให้นักเตะหลายรายเริ่มถูกจับตามองและเอ่ยถึงหลายรายจากฟอร์มที่โดด เด่น
หนึ่งในนั้น ''เจ้าสุข'' สุขพร วงศ์เชียงคำ กองหน้าทีมชาติลาวหนึ่งเดียวของทีมกระบี่ เอฟซี ที่ถือว่าฟอร์มและผลงานมีความสม่ำเสมอจนกลายเป็นที่รักและชื่นชอบของแฟนบอล เท่านั้นไม่พอฟอร์มการเล่นของเขายังมีความโดดเด่นกับการกลับไปรับใช้ทีมชาติ ลาวในศึกเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2012 ที่ผ่านมาด้วย
''ผมมาร่วมเล่นกับทีมกระบี่ เอฟซีได้หนึ่งฤดูกาลแล้วรู้สึกพอใจกับฟอร์มตัวเองอย่างมาก เพราะผมว่าตัวเองพัฒนาขึ้นไม่น้อยจากเดิมที่เคยเล่นที่ประเทสลาว เนื่องจากมาเล่นที่เมืองไทยได้เล่นกับนักเตะฝีเท้าดีทั้งนักเตะไทยและแข้ง ต่างชาติ ซึ่งแตกต่างกับที่ประเทศลาวซึ่งต่างชาติไม่เก่ง นักเตะในลีกก็ยังไม่ค่อยแข็งแกร่งเท่าไหร่''
''ขณะเดียวกันในเรื่องของความเป็นส่วนตัวนอกสนามผมก็ไม่มี ปัญหา เพราะวัฒนธรรมของไทยและลาวคล้ายกัน ทำให้ผมปรับตัวได้เร็ว ตอนนี้ผมใช้ชีวิตที่กระบี่อย่างสบายมาก เพื่อนๆ ร่วมทีมและแฟนบอลรู้จักผม ให้การต้อนรับเป็นอย่างดี ไปไหนก็มีแต่คนรู้จัก ก็เป็นปลื้มครับ ที่สำคัญผมว่าตอนนี้มันต่างกับตอนที่ผมมาใหม่ๆ มาก โดยเฉพาะเรื่องของการยอมรับในฝีเท้า เนื่องจากตอนแรกดูเหมือนว่าทุกคนยังไม่ค่อยมั่นใจผมเท่าไหร่ แต่หลังจากที่ผมเล่นมาหนึ่งซีซั่นและติดทีมชาติลาว ทุกคนยอมรับผมมากขึ้น แต่ผมยังมีดีมาโชว์อีกในซีซั่นใหม่นะ'' สุขพร กล่าว
สำหรับแข้งจากบ้านพี่เมืองน้องที่ล่องใต้มาไกลบ้านเกิดด้วย ความมุ่งมานะ สุดท้ายเขาก็ประสบความสำเร็จกับความฝันที่อยากจะเล่นฟุตบอลลีกไทย และทำได้ดีด้วย แม้ว่าจะยังไม่ใช่ลีกสูงสุดก็ตาม ถือว่าเป็นแบบอย่างให้กับนักเตะไทยอีกหลายคนที่ยังหลงทางและขาดความมุ่งมั่น ที่จะเอาแบบอย่าง พิสูจน์ให้เห็นว่าตนเองมีดีอะไร
''ผมว่าการที่ผมมาเล่นที่เมืองไทย ผมได้อะไรไปเยอะมากได้เพื่อนใหม่ ได้ประสบการณ์ใหม่ ที่สำคัญคือฝีเท้าที่พัฒนาขึ้น เพื่อนำกลับไปใช้ช่วยทีมชาติ เมื่อเกิดเจอกับนักเตะไทย เรามักจะมองว่าตัวเองอ่อนกว่า แต่พอผมมาได้สัมผัสและเล่นที่ลีกไทย ทำให้ผมมั่นใจมากขึ้นและคิดว่าเราก็เล่นได้ และไม่ได้ด้อยกว่าอย่างที่เข้าใจ ยิ่งหากเรามีความตั้งใจ และความมุ่งมั่นเราก็เล่นได้เก่งไม่แพ้กัน ซึ่งผมหวังว่าจากประสบการณ์ที่ผมได้รับจะช่วยให้ทีมชาติลาวแกร่งขึ้นด้วย''
ขณะเดียวกันทาง สุขพร วงศ์เชียงคำ กองหน้าของทีมชาติลาว ยังได้มองอนาคตของตัวเองวันข้างหน้าว่า ยังเหลือสัญญากับทีมกระบี่ เอฟซี อีกหนึ่งปี แต่ก็ยังไม่มีการพูดคุยอะไร ซึ่งก็หวังว่าซีซั่นนี้จะงัดฟอร์มที่ดีกว่าเดิมออกมาให้ได้ เพื่อโอกาสการต่อสัญญาใหม่ หรือไม่ก็ยังต้องการเล่นในลีกเมืองไทยต่อไป เพราะนี่คือประสบการณ์ที่ดี ส่วนซีซั่นนี้แข้งทีมชาวลาว มองว่าต้นสังกัดของตนเองน่าจะดีกว่าเดิมได้เพียงแต่ต้องมีตัวเก๋าบ้าง
''ซีซั่นใหม่ที่กำลังจะมาถึง ผมว่ากระบี่ เอฟซี น่าจะดีกว่าเดิม เพราะมีนักเตะใหม่ทั้งไทยและต่างๆ ชาติ ซึ่งเท่าที่เห็นแต่ละรายทักษะฝีเท้าดี น่าจะทำให้จุดเด่นคือเกมในบ้านของเราแพ้ยากเหมือนเดิม ส่วนเกมนอกบ้านที่เคยไม่ชนะก็คงจะดีขึ้น เนื่องจากทีมของเรามีแข้งพลังหนุ่มที่มีความกระหายความสำเร็จ แต่ผมหวั่นเรื่องเดียวคือเรายังขาดความเก๋าเท่านั้นเอง แต่เชื่อว่าเราน่าจะดีกว่าเดิม''
สุขพร วงศ์เชียงคำ หนึ่งแข้งเพื่อนบ้านที่เข้ามาค้าแข้งในลีกเมืองไทย ที่ถือว่าประสบความสำเร็จไม่น้อย จากความมุ่งมั่น ที่บรรดาแข้งไทยควร
http://www.siamsport.co.th/Column/130130_111.html
0 comments:
Post a Comment